วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ผู้จัดทำ และ อาจาร์ผู้สอน

ผู้จัดทำ

ด.ญ.เสาวลักษณ์  แซ่ตัน ม.๒/๓  เลขที่ ๓๙
ด.ญ.นันทกา  ศรีษะน้อย  ม.๒/๓  เลขที่ ๓๔
ด.ช.สิรวิชญ์   เกลี้ยงเกิด  ม.๒/๓  เลขที่ ๙
ด.ช.ภูธเนศ   จันทวโร      ม.๒/๓  เลขที่ ๒๕
ด.ญ.พรกนก   พัดตัน        ม.๒/๓  เลขที่ ๑๗

อาจารย์ผู้สอน

อ.จิราภรณ์   ไทยนกเทศ

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน

1. ข้อใดกล่าวถึง อินเทอร์เน็ต ไม่ถูกต้อง
ก. อินเทอร์เน็ต หมายถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก
ข. อินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีแหล่งข้อมูลมากมาย
ค. อินเทอร์เน็ต หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่ายง. อินเทอร์เน็ต มีระบบโปรโตคอลที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่าย


2. โฮมเพจ  (Home Page)  คือส่วนใดของเว็บไซต์ 
ก. หน้าที่หนึ่ง ข. หน้าที่สอง
ค. หน้าที่สาม
ง. หน้าที่สี่


3.  โดเมนเนมของสถาบันการศึกษาคือข้อใด
ก. .go
ข. .net
ค. .com
ง. .ac


4. ข้อใดคือโปรแกรมที่ในการสร้างเว็บเพจ
ก. Internet Explorer
ข. Fire Fox
ค. Macromedia Dreamweaver
ง. Adobe Acrobat


5.  ข้อใดคือภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ
ก. ISO
ข. ASPค. ASH
ง. JAGUAL


6. ถ้าหากเว็บไซต์เปรียบเสมือนกับสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่  แล้วโฮมเพจจะเปรียบได้กับอะไร
ก. หน้าปกข. คำนำ
ค.  สารบัญ
ง.  เอกสารอ้างอิง


7.  โปรแกรมเว็บบราวเซอร์  (Web Browser) คือข้อใด
ก. เครื่องมือในการใช้อินเตอร์เน็ต
ข. เครื่องสื่อสารชนิดหนึ่ง
ค. เอกสารหน้าที่หนึ่ง
ง. โปรแกรมที่ใช้ในสำหรับเปิดเว็บเพจ


8.  ทุกข้อต่อไปนี้เป็นโปรแกรมเว็บบราวเซอร์  ยกเว้นข้อใด
ก. Internet Explorer

ข. Macromedia dreamweaver ค. Fire Fox
ง. Opera


9.  HTML คืออะไร
ก. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับควบคุมการแสดงเอกสารบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตข. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการเอกสารเว็บบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ค. วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ง. วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายอินทราเน็ต


10. ในการสร้างเว็บเพจต้องใช้โปรแกรมเท็กอิดิเตอร์ (Text Editor)  ในข้อใด
ก. Accessข. Fire Fox
ค. Nodepad
ง. ใช้ได้ทุกโปรแกรม


แบบทดสอบหลังเรียน

1. ข้อใดกล่าวถึง อินเทอร์เน็ต ไม่ถูกต้อง
ก. อินเทอร์เน็ต หมายถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก
ข. อินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีแหล่งข้อมูลมากมาย
ค. อินเทอร์เน็ต หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่าย
ง. อินเทอร์เน็ต มีระบบโปรโตคอลที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่าย

2. โฮมเพจ  (Home Page)  คือส่วนใดของเว็บไซต์ 
ก. หน้าที่หนึ่ง
ข. หน้าที่สอง
ค. หน้าที่สาม
ง. หน้าที่สี่

3.  โดเมนเนมของสถาบันการศึกษาคือข้อใด
ก. .go
ข. .net
ค. .com
ง. .ac

4. ข้อใดคือโปรแกรมที่ในการสร้างเว็บเพจ
ก. Internet Explorer
ข. Fire Fox
ค. Macromedia Dreamweaver
ง. Adobe Acrobat

5.  ข้อใดคือภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ
ก. ISO
ข. ASP
ค. ASH
ง. JAGUAL

6. ถ้าหากเว็บไซต์เปรียบเสมือนกับสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่  แล้วโฮมเพจจะเปรียบได้กับอะไร
ก. หน้าปก
ข. คำนำ
ค.  สารบัญ
ง.  เอกสารอ้างอิง

7.  โปรแกรมเว็บบราวเซอร์  (Web Browser) คือข้อใด
ก. เครื่องมือในการใช้อินเตอร์เน็ต
ข. เครื่องสื่อสารชนิดหนึ่ง
ค. เอกสารหน้าที่หนึ่ง
ง. โปรแกรมที่ใช้ในสำหรับเปิดเว็บเพจ

8.  ทุกข้อต่อไปนี้เป็นโปรแกรมเว็บบราวเซอร์  ยกเว้นข้อใด
ก. Internet Explorer
ข. Macromedia dreamweaver
ค. Fire Fox
ง. Opera

9.  HTML คืออะไร
ก. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับควบคุมการแสดงเอกสารบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ข. เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการเอกสารเว็บบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ค. วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ง. วิธีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายอินทราเน็ต

10. ในการสร้างเว็บเพจต้องใช้โปรแกรมเท็กอิดิเตอร์ (Text Editor)  ในข้อใด
ก. Access
ข. Fire Fox
ค. Nodepad
ง. ใช้ได้ทุกโปรแกรม

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

1.      ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด
ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ไซเบอร์สเปช
ค. กลุ่มของคอมพิวเตอร์
ง. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง

2. อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นที่ประเทศใด
ก. สหรัฐอเมริกา
ข. อังกฤษ
ค. รัสเซีย
ง. ออสเตรเลีย

3.การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับใคร
ก. IPS
ข. ISP
ค. RSP
ง. SPI

4. โมเด็มคืออะไร
ก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณชนิดหนึ่ง
ข. เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต
ค. เครื่องมือในการส่งข้อมูล
ง. อุปกรณ์แปลงสัญญาณทั้งสัญญาณ อะนาล็อกและดิจิตอล

5. การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่าอะไร
ก. อีเมล์
ข. การสืบค้นข้อมูล
ค. การโอนถ่ายข้อมูล
ง. การแลกเปลี่ยนข่าวสาร
6. บริการด้าน E-Commerce หมายถึง
ก. การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต
ข. การส่งข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต
ค. การพูดคุยหรือสนทนา
ง. การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
7.  @  อ่านว่า
ก. เอ
ข. เอด
ค. แอท
ง. เอ็ก
8. stou.ac.th  คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร
ก. ตัวย่อประเทศ
ข. ชื่อหน่วยงานเจ้าของ
ค. ตัวย่อประเภทขององค์กร
ง. ชื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
9. กระทรวงต่างประเทศของไทยมี DNS ว่าอย่างไร
ก. mfa.or.th
ข. mfa.ac.th
ค. mfa.go.th
ง. mfa.co.th
10. supapong03@chaiyo.com  ส่วนใดหมายถึง โดเมนเนม(Domain Name)
ก. supapong03
ข. @
ค. chaiyo
ง. chaiyo.com


แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง อินเตอร์เน็ต

1.      ข้อใดให้ความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้องที่สุด
ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ไซเบอร์สเปช
ค. กลุ่มของคอมพิวเตอร์
ง. การส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง

2. อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นที่ประเทศใด
ก. สหรัฐอเมริกา
ข. อังกฤษ
ค. รัสเซีย
ง. ออสเตรเลีย

3.การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับใคร
ก. IPS
ข. ISP
ค. RSP
ง. SPI

4. โมเด็มคืออะไร
ก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณชนิดหนึ่ง
ข. เครื่องมือในเล่นอินเตอร์เน็ต
ค. เครื่องมือในการส่งข้อมูล
ง. อุปกรณ์แปลงสัญญาณทั้งสัญญาณ อะนาล็อกและดิจิตอล
5. การใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความเรียกว่าอะไร
ก. อีเมล์
ข. การสืบค้นข้อมูล
ค. การโอนถ่ายข้อมูล
ง. การแลกเปลี่ยนข่าวสาร
6. บริการด้าน E-Commerce หมายถึง
ก. การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต
ข. การส่งข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต
ค. การพูดคุยหรือสนทนา
ง. การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
7.  @  อ่านว่า
ก. เอ
ข. เอด
ค. แอท
ง. เอ็ก
8. stou.ac.th  คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร
ก. ตัวย่อประเทศ
ข. ชื่อหน่วยงานเจ้าของ
ค. ตัวย่อประเภทขององค์กร
ง. ชื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
9. กระทรวงต่างประเทศของไทยมี DNS ว่าอย่างไร
ก. mfa.or.th
ข. mfa.ac.th
ค. mfa.go.th
ง. mfa.co.th
10. supapong03@chaiyo.com  ส่วนใดหมายถึง โดเมนเนม(Domain Name)
ก. supapong03
ข. @
ค. chaiyo
ง. chaiyo.com

เฉลย

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเตอร์เน็ต

ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน
ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาท


คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเตอร์เน็ต


คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเตอร์เน็ต
        ในสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไป ผุ้ใช้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดอันตรายได้ ฉะนั้น วิธีหนึ่งที่จะป้องกันเยาวชนไทยจากปัญหาเหล่านี้ก็คือ การให้เยาวชนรู้จักกับศิลปป้องกันตัวในอินเทอร์เน็ต

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรจะรู้และยึดถือปฏิบัติ ดังนี้                                                                                 
        1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อ โรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
        2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆ บนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสม ควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที
        3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน และหากผู้ปกครองอนุญาต ก็ควรไปพร้อมกับผู้ปกครอง โดยควรไปพบกันในที่สาธารณะ
        4. ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
        5. ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย และต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที
        6. ควรเคารพต่อข้อต่อลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้ไว้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เข้าได้

การใช้บริการอินเตอร์เน็ต

การใช้บริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ต

บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต


1. เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)


 เวิลด์ไวด์เว็บ หรือเครือข่ายใยแมงมุม เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเรื่อยๆ เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการเรียกดูเว็บไซต์ต้องอาศัยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ในการดูข้อมูล เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น โปรแกรม Internet Explorer (IE) , Netscape Navigator





2 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail)


การติดต่อสื่อสารโดยใช้อีเมลสามารถทำได้โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลักการทำงานของอีเมลก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา นั้นคือ จะต้องมีที่อยู่ที่ระบุชัดเจน ก็คือ อีเมลแอดเดรส (E-mail address)


องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบด้วย


1.       ชื่อผู้ใช้ (User name)


2.       ชื่อโดเมน


Username@domain_name





การใช้งานอีเมล สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ


1. Corporate e-mail คือ อีเมล ที่หน่วยงานต่างๆสร้างขึ้นให้กับพนักงานหรือบุคลากรในองค์กรนั้น เช่น   u47202000@dusit.ac.th   คือ e-mail ของนักศึกษาของสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เป็นต้น


2. Free e-mail คือ  อีเมล ที่สามารถสมัครได้ฟรีตาม web mail ต่างๆ เช่น


Hotmail, Yahoo Mail, Thai Mail และ  Chaiyo Mail





3. บริการโอนย้ายไฟล์ (File Transfer Protocol)


เป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายไฟล์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การโอนย้ายไฟล์สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ


1.        การดาวน์โหลดไฟล์ (Download File )


การดาวน์โหลดไฟล์ คือ การรับข้อมูลเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ในปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่จัดให้มีการดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีเช่น www.download.com


2. การอัพโหลดไฟล์ (Upload File)


การอัพโหลดไฟล์คือการนำไฟล์ข้อมูลจากเครื่องของผู้ใช้ไปเก็บไว้ในเครื่องที่ให้บริการ (Server) ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น กรณีที่ทำการสร้างเว็บไซต์ จะมีการอัพโหลดไฟล์ไปเก็บไว้ในเครื่องบริการเว็บไซต์ (Web server ) ที่เราขอใช้บริการพื้นที่ (web server) โปรแกรมที่ช่วยในการอัพโหลดไฟล์เช่น FTP Commander 





4 บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Instant Message)


การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตคือ การส่งข้อความถึงกันโดยทันทีทันใด นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ รูปภาพ ไฟล์ข้อมูลได้ด้วย การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตเป็นโปรแกรมที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โปรแกรมประเภทนี้ เช่น โปรแกรม ICQ            (I seek you) MSN Messenger, Yahoo Messenger เป็นต้น


                               


5 บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต


1. Web directory คือ การค้นหาโดยการเลือก Directory ที่จัดเตรียมและแยกหมวดหมู่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว website ที่ให้บริการ web directory   เช่น  www.yahoo.com, www.sanook.com


2.  Search Engine  คือ การค้นหาข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Search โดยการเอาคำที่เราต้องการค้นหาไปเทียบกับเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีเว็บไซต์ใดบ้างที่มีคำที่เราต้องการค้นหา


website ที่ให้บริการ search engine  เช่น  www.yahoo.com, www.sanook.com, www.google.co.th, www.sansarn.com


               3. Metasearch คือ การค้นหาข้อมูลแบบ Search engine แต่จะทำการส่งคำที่ต้องการไปค้นหาในเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลอื่นๆ อีก ถ้าข้อมูลที่ได้มีซ้ำกัน ก็จะแสดงเพียงรายการเดียว เว็บไซต์ที่ให้บริการ Metasearch เช่น www.search.com, www.thaifind.com


                   6 บริการกระดานข่าวหรือ เวบบอร์ด (Web board)


เว็บบอร์ด เป็นศูนย์กลางในการแสดงความคิดเห็น มีการตั้งกระทู้ ถาม-ตอบ ในหัวข้อที่สนใจ เว็บบอร์ดของไทยที่เป็นที่นิยมและมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย คือ เว็บบอร์ดของพันธ์ทิพย์ (www.pantip.com)


7.  ห้องสนทนา (Chat Room)


ห้องสนทนา คือ การสนทนาออนไลน์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีการส่งข้อความสั้นๆ ถึงกัน การเข้าไปสนทนาจำเป็นต้องเข้าไปในเว็บไซต์ที่ให้บริการห้องสนทนาเช่น www.sanook.com www.pantip.com


การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต


การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต



การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (Wire Internet)

1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล (Individual Connection)

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากที่บ้าน (Home user) ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (User name) และรหัสผ่าน (Password) ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเทอร์เน็ตได้


องค์ประกอบของการใช้อินเทอร์เน็ตรายบุคคล

1. โทรศัพท์

2. เครื่องคอมพิวเตอร์

3. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะให้เบอร์โทรศัพท์ รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน

4. โมเด็ม (Modem)





โมเด็ม คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณ เนื่องจากสัญญาณในคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณดิจิทัล (Digital) แต่สัญญาณเสียงในระบบโทรศัพท์เป็นสัญญาณอนาล็อก (Analog) ดังนั้นเมื่อต้องการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตจึงต้องใช้โมเด็มเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาล็อกตามสายโทรศัพท์ และแปลงกลับจากสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิทัล เมื่อถึงปลายทาง

ความเร็วของโมเด็มมีหน่วยเป็น บิตต่อวินาที (bit per second : bps) หมายความว่า ในหนึ่งวินาที จะมีข้อมูลถูกส่งออกไป หรือรับเข้ามากี่บิต เช่น โมเด็มที่มีความเร็ว 56 Kpbs จะสามารถ รับ-ส่งข้อมูลได้ 56 กิโลบิตในหนึ่งวินาที



โมเด็มสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ

1. โมเด็มแบบติดตั้งภายนอก (External modem)

เป็นโมเด็มที่ติดตั้งกับคอมพิวเตอร์ภายนอก สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพราะในปัจจุบันการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จะผ่าน USB พอร์ต (Universal Serial Bus) ซึ่งเป็นพอร์ตที่นิยมใช้กันมาก ราคาของโมเด็มภายนอกไม่สูงมากนัก แต่จะยังมีราคาสูงกว่าโมเด็มแบบติดตั้งภายใน รูปที่ 6.3 แสดงโมเด็มภายนอก



2. โมเด็มแบบติดตั้งภายใน (Internal modem)

เป็นโมเด็มที่เป็นการ์ดคอมพิวเตอร์ที่ต้องติดตั้งเข้าไปกับแผงวงจรหลักหรือเมนบอร์ด (main board) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็มประเภทนี้จะมีราคาถูกว่าโมเด็มแบบติดตั้งภายนอก เวลาติดตั้งต้องอาศัยความชำนาญในการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และติดตั้งไปกับแผงวงจรหลัก


3. โมเด็มสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Note Book Computer) อาจเรียกสั้นๆว่า PCMCIA modem



2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กร (Corporate Connection)

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย LAN นี้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (Leased line) ดังนั้น บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบ LAN ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ (Connection) เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต




การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wireless Internet)



1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายผ่านเครื่องโทรศัพท์บ้านเคลื่อนที่ PCT

เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Note book) และคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Pocket PC) ผู้ใช้จะต้องมี โมเด็ม ชนิด PCMCIA ของ PCT ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้ได้ ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลได้



2. การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือโดยตรง (Mobile Internet)



1. WAP (Wireless Application Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของอุปกรณ์ไร้สายที่ใช้งานบนอินเทอร์เน็ต ใช้ภาษา WML (Wireless Markup Language) ในการพัฒนาขึ้นมา แทนการใช้ภาษา HTML (Hypertext markup Language) ที่พบใน www โทรศัพท์มือถือปัจจุบัน หลายๆยี่ห้อ จะสนับสนุนการใช้ WAP เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ 9.6 kbps และการใช้ WAP ท่องอินเทอร์เน็ตนั้น จะมีการคิดอัตราค่าบริการเป็นนาทีซึ่งยังมีราคาแพง



2. GPRS (General Packet Radio Service) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้โทรศัพท์มือถือสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง และสามารถส่งข้อมูลได้ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ภาพกราฟิก เสียง และวีดิโอ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลด้วยโทรศัพท์ที่สนับสนุน GPRS อยู่ที่ 40 kbps ซึ่งใกล้เคียงกับโมเด็มมาตรฐานซึ่งมีความเร็ว 56 kbps อัตราค่าใช้บริการคิดตามปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่ง ตามจริง ดังนั้นจึงทำให้ประหยัดกว่าการใช้ WAP และยังสื่อสารได้รวดเร็วขึ้นด้วย



3. โทรศัพท์ระบบ CDMA (Code Division Multiple Access) ระบบ CDMA นั้น สามารถรองรับการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 153 Kbps ซึ่งมากกว่าโมเด็มที่ใช้กับโทรศัพท์ตามบ้านที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เพียง 56 kbps นอกจากนี้ ระบบ CDMA ยังสนับสนุนการส่งข้อมูลระบบมัลติมีเดียได้ด้วย



4. เทคโนโลยี บลูทูธ (Bluetooth Technology) เทคโนโลยีบลูทูธ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับการสื่อสารแบบไร้สาย โดยใช้หลักการการส่งคลื่นวิทยุ ที่อยู่ในย่านความถี่ระหว่าง 2.4 - 2.4 GHz ในปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้เทคโนโลยีไร้สายบลูธูทเพื่อใช้ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆชนิด เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์พ็อคเก็ตพีซี



3. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโน้ตบุ๊ก(Note book) และ เครื่องปาล์ม (Palm) ผ่าน โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุนระบบ GPRS

โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุน GPRS จะทำหน้าที่เสมือนเป็นโมเด็มให้กับอุปกรณ์ที่นำมาพ่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็น Note Book หรือ Palm และในปัจจุบันบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการผลิต SIM card ที่เป็น Internet SIM สำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อให้สามารถติดต่อกับอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น